ข่าวใหญ่ที่ผมอยากจะหยิบยกมาวิเคราะห์ในวันนี้ หนีไม่พ้นเรื่องราวของ Qualcomm ที่ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของบริษัท Ventana Micro Systems Inc. เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2025 ที่ผ่านมานี่เองครับ หากมองเผิน ๆ อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ แต่ถ้าลงรายละเอียดแล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้ Qualcomm สามารถ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องภายใต้ความไม่แน่นอนของRISC-V อย่างแยกไม่ออก
RISC-V คืออะไร? และทำไม Qualcomm ถึงให้ความสำคัญ
สำหรับแฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของสถาปัตยกรรมซีพียูมาโดยตลอด คงจะคุ้นเคยกับ x86 ของ Intel/AMD และ ARM ที่ผงาดขึ้นมาในตลาดมือถือและตอนนี้ก็บุกตลาดพีซีอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ชื่อของ RISC-V (อ่านว่า ริสก์-ไฟว์) ก็เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ
RISC-V คือสถาปัตยกรรมชุดคำสั่ง (Instruction Set Architecture - ISA) ที่มีลักษณะเป็น "โอเพนซอร์ส" (Open Source) ซึ่งตรงกันข้ามกับ ARM และ x86 ที่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ในการนำไปใช้งานหรือพัฒนาต่อยอด ตรงนี้เองที่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ RISC-V มีศักยภาพที่จะเป็นผู้เล่นคนที่สามในตลาดซีพียูในอนาคต
ในมุมมองของผม Qualcomm เองก็พยายามที่จะลดการพึ่งพา ARM ในระยะยาว และกำลังผลักดันซีพียูในชื่อ Oryon ของตนเอง ซึ่งมาจากทีม Nuvia ที่พวกเขาเข้าซื้อมาเมื่อไม่นานนี้ การเข้าซื้อ Ventana Micro Systems ครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Qualcomm ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการพัฒนามาตรฐานและระบบนิเวศของ RISC-V อย่างชัดเจน
เป็นที่น่าสังเกตว่า Ventana นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาชุดคำสั่ง RISC-V โดยเฉพาะ และยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการพวงมาลัยด้านเทคนิคของ RISC-V International อีกด้วย นี่จึงไม่ใช่แค่การซื้อทีมวิศวกร แต่เป็นการซื้อ "ความรู้ความชำนาญเชิงลึก" และ "ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์" ในการกำหนดทิศทางของมาตรฐาน RISC-V เลยทีเดียวครับ
ประโยชน์ที่ Qualcomm จะได้รับจากการผนึกกำลังครั้งนี้
เสริมแกร่ง Oryon CPU: ทีมงานและองค์ความรู้ของ Ventana จะถูกนำมาเสริมทัพการพัฒนาซีพียู Oryon ที่ Qualcomm กำลังพัฒนาอย่างแข็งขัน ซึ่ง Oryon จะเป็นหัวหอกสำคัญในการบุกตลาดต่างๆ ตั้งแต่ Edge Solutions ไปจนถึง Data Center โดยเน้นที่ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
ความเป็นผู้นำใน RISC-V: การมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอย่าง Ventana เข้ามาอยู่ในองค์กร ทำให้ Qualcomm มีอิทธิพลอย่างมากในการขับเคลื่อนมาตรฐานของ RISC-V ให้ตอบโจทย์การใช้งานระดับองค์กร (Enterprise) และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ลดการพึ่งพา ARM: อย่างที่เรียนไปครับ การมีทางเลือกในการพัฒนาสถาปัตยกรรมของตัวเอง โดยเฉพาะ RISC-V ที่เป็น Open Source จะช่วยให้ Qualcomm มีความยืดหยุ่นและควบคุมทิศทางการพัฒนาซีพียูได้มากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมหรือข้อจำกัดทางเทคนิคจากผู้ให้ลิขสิทธิ์เดิม
มองไปข้างหน้า
หากมองย้อนกลับไปในอดีต เราเห็น Intel ผูกขาดตลาดพีซีมานานแสนนาน จนกระทั่ง ARM และการมาของสมาร์ทโฟนได้เขย่าวงการไปครั้งหนึ่ง การที่บริษัทใหญ่อย่าง Qualcomm ทุ่มเม็ดเงินและทรัพยากรลงไปใน RISC-V ก็เหมือนกับการลงทุนในเทคโนโลยีที่จะเป็น "ทางรอดที่สาม" ในตลาดซีพียู
คำกล่าวของคุณ Durga Malladi ผู้บริหารของ Qualcomm ที่บอกว่า "เราเชื่อว่าสถาปัตยกรรมชุดคำสั่ง RISC-V มีศักยภาพที่จะผลักดันขอบเขตเทคโนโลยีซีพียูไปข้างหน้า" ก็ต้องบอกว่าเป็นการประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนมากครับ
อย่างไรก็ตาม ตลาดซีพียูสำหรับผู้บริโภคทั่วไปในวันนี้ก็ยังคงเป็นของ x86 และ ARM เป็นหลัก RISC-V อาจจะยังไม่เข้ามาถึงตลาดประกอบคอมพิวเตอร์ (DIY) อย่างเต็มตัวในเร็ววัน แต่ถ้าดูจากพัฒนาการและผู้เล่นระดับโลกที่เริ่มเข้ามาให้ความสนใจ รวมถึงการลงทุนของ Qualcomm ในครั้งนี้ ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า RISC-V จะไม่ได้เป็นแค่สถาปัตยกรรมทางเลือกในโลกวิชาการอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็น "อาวุธสำคัญ" ในยุค AI และการประมวลผลแบบกระจายศูนย์อย่างแน่นอน
สรุปทิ้งท้าย
การเข้าซื้อ Ventana Micro Systems ของ Qualcomm ไม่ใช่แค่การประกาศ แต่เป็นการลงมือทำที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการก้าวเข้าสู่ยุคของ RISC-V นี่คือการวางรากฐานทางเทคโนโลยีที่จะส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของ Qualcomm ไปอีกหลายปีข้างหน้า และสำหรับเราๆ ผู้ใช้งาน ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากการแข่งขันในสถาปัตยกรรมที่หลากหลายมากขึ้น
ผมเองก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่า Oryon CPU บนพื้นฐาน RISC-V จะออกมาในรูปแบบใด และจะสร้างความคุ้มค่า (Price/Performance) ได้น่าสนใจขนาดไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สำหรับวันนี้ขอตัวไปติดตามข่าวสารอื่นๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกนะครับ!